Key Focus
“เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว ที่คนทำธุรกิจและนักการตลาดเครียดและสับสนกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ผันผวน ไม่มีความชัดเจน เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับความเปลี่ยนแปลงของโลก สังคม และผู้บริโภค หลายเรื่องเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จนเกิดเป็นโลกที่เราไม่เคยรู้จัก เกิดความไม่เข้าใจมากมาย ซึ่งธุรกิจและนักการตลาดต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทัน”
นายกสมาคมการตลาดฯ ได้ฝากหลักคิดและแนวทางการทำการตลาดในโลกที่เต็มไปด้วย Unknown จากการประมวลความคิดของท่าน CEO และ CMO Council ที่ให้การสนับสนุนสมาคมการตลาดมาโดยตลอด มีหัวใจ หรือที่เรียกว่า H.E.A.R.T ดังนี้
H – Humanize
ในยุคที่ยากลำบาก ความเห็นอกเห็นใจสำคัญมาก ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่มีความเป็นมนุษย์ มีจิตสำนึก มีความเข้าใจ มีความโปร่งใส และมีเป้าหมายเดียวกับพวกเขา หากแบรนด์จริงใจ และสามารถสร้างมิตรภาพจนความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเหมือนเพื่อน เมื่อนั้นคุณจึงจะสามารถก้าวไปอยู่ในใจของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
E – ESG & Sustainability
ในขณะที่สถานการณ์โควิด การเมืองโลก เศรษฐกิจ ธุรกิจ เทคโนโลยี ฯลฯ มีแต่ความไม่รู้ (unknown) และไม่แน่นอน (unpredictable) สิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ชัด คือ โลกที่เราอยู่กำลังถดถอย และต้องการการเยียวยา นานาอารยะประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญและยกให้เรื่อง Green Trend นี้เป็นวาระระดับโลก ภาคธุรกิจก็ให้ความสำคัญกับเรื่องการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มากยิ่งขึ้น โดยเรื่อง ESG จะไม่ได้เป็นแค่การทำกิจกรรม CSR อีกต่อไป แต่จะถูกพัฒนาไปเป็นรูปแบบของ Sustainable Marketing อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเรื่องของกระบวนการผลิต แนวคิดผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการปรับโมเดลธุรกิจให้เกิดผลเชิงบวกกับ Profit – People – และ Planet ไปพร้อมๆกัน
A – Agile
ในที่นี้คือ ความคล่องตัวในทุกแง่มุม ทั้งรูปแบบ Agile Structure ขององค์กร ที่ต้องปรับให้เอื้อต่อการตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เป็นอิสระต่อกัน ทีมงานต้องมี Agile Mindset ที่พร้อมเปิดรับความเปลี่ยนแปลง ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมเพื่อร่วมแก้ปัญหา กระตุ้นให้กล้าคิดที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ๆบรรลุเป้าหมาย ในมุมของการตลาด ก็ต้องมี Agile Marketing คือมีกลยุทธ์และแผนการตลาดที่มีความยืดหยุ่น มีการคิดมาอย่างรอบคอบ และมีแผนสำรองที่หลากหลาย พร้อมปรับเปลี่ยนให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
R – Resilience
สถานการณ์ที่ผ่านมาหลายภาคส่วนและหลายๆธุรกิจได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่หนึ่งในความท้าทายที่เป็นโอกาส คือ เรื่องการ “ล้มแล้วลุกเร็ว” เมื่อธุรกิจหรือแผนการตลาดไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ธุรกิจต้องเรียนรู้ เพื่อนำมาปรับและเตรียมพร้อมรับมือ ความ resilience ภายใน คือวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้คนลองผิดลองถูกให้คนมี growth mindset และมีที่ให้พวกเขาได้พัฒนาส่วนภายนอกนั้นบางครั้ง การ resist ไม่ได้แปลว่าการยึดคิดกับความสำเร็จเดิมๆ แต่คือการกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอด
T – Transformation
ในยุคนี้ องค์กรต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ในวิกฤติที่เกิดขึ้น จริงๆแล้วเรามองเห็นโอกาสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและรักโลกมากขึ้น เขายอมจ่ายมากขึ้นเพื่อได้รับสิ่งที่ดีกว่า เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นใน1-2ปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่อง new platform เรื่อง digital asset หรือแม้แต่การเกิดขึ้นของ metaverse โลกเสมือนที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตและวิถีการทำธุรกิจในอนาคต เทรนด์และโอกาสนั้นมีมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือ องค์กรต้องรู้จักเลือก ว่าโอกาสไหน ที่เหมาะกับธุรกิจของเรา
อยากให้นักการตลาดคำนึงถึงหลักคิดและแนวทางการทำการตลาด 5 ข้อที่สำคัญนี้ เพิ่มมุมมองและประสบการณ์ในการรับมือกับสิ่งที่เป็น Unknown ต่างๆเหล่านี้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวคิดดีๆมาจุดประกายในการพลิกวิกฤติให้กลาย เป็นโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความเข้มแข็งกับแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในโลกยุคใหม่