ข้อดี ของการวางกลยุทธ์การตลาด คือ
ทำงานแบบใช้ทรัพยาการน้อย (คน เงิน เวลา) แต่ได้ผลมาก
ทีมงานมีทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ขยันทำ แต่คนละทาง = ไม่ได้ผล
1+1 = 10 การตลาดคุณจะมีผลลัพธ์สูงสุด
เหตุผลที่การตลาดส่วนใหญ่ได้ผลลัพธ์แค่ค่าเฉลี่ย เพราะเราเน้นที่การหา Tactics (เช่น จะทำตลาดแบบไหนดี มีเคมเปญดีไหม ใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีเจ๋งๆ อันก่อน เป็นต้น) แต่นักการตลาดที่สร้างผลลัพธ์หลายเท่าตัวเหนือคู่แข่งในตลาด ต้องมาจากการวางกลยุทธ์ หาวิธีที่จะชนะก่อนลงไปสู้ในสนามจริง ถ้าคุณวางแผนมาดี ตอนลงมือทำคุณจะไม่เหนื่อย และไปถูกทาง แล้วสร้างผลลัพธ์ได้สูงสุดจริง ไม่ว่าจะอยู่ในสนามรบใดก็ชนะ
หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร :
- ผู้บริหารทีมการตลาด ที่ต้องกำหนดทิศทางการตลาดให้องค์กร ไปสู่ผลลัพธ์สูงสุด และเหนือกว่าคู่แข่งขัน
- นักการตลาดที่อยากเข้าใจเรื่อง การตลาดเชิงกลยุทธ์ ที่ไม่ใช่เน้นแค่การทำงานปัจจุบัน แต่คือการวางแผนให้ชนะอย่างแยบยล
What? กลยุทธ์คืออะไร
- กรณีศึกษา ทำไมต้องเข้าใจปัญหา ก่อนแก้ปัญหา
- การรู้ปัญหา VS เข้าใจปัญหา – ผลลัพธ์ที่ต่างกันสุดขั้ว จากระดับความเข้าใจของปัญหา
- สิ่งที่ตัวเลข ไม่ได้บอกคุณ – เมื่อผู้บริหารทุ่มเท ทรัพยากรผิดจุด
- อะไรคือ ความลับ ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกค้า
- Consumer Insight การเข้าใจลูกค้าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ และการวางกลยุทธ์ให้ชนะ
Why? ทำไมต้องมีกลยุทธ์
- การตลาดคืออะไร ทำไมการตลาดต้องมีกลยุทธ์ – ธุรกิจแข่งขันกันที่วิธีคิด ไม่ใช่แค่ความพยายาม
- การตลาดที่ทรงพลังต้องมี
- Goal เป้าหมาย
- Strategy กลยุทธ์
- Tactics ยุทธ์วิธี
- Failing to plan = Planning to Fail
How? การค้นหากลยุทธ์
- วิธีคิดในการค้นหากลยุทธ์ ที่ทำให้คุณชนะ จาก 3 กล่องดำ
- Blackbox 1 : Consumer Needs เราเข้าใจลูกค้าลึกซึ้งจริงหรือไม่ ?
- Blackbox 2 : Our Core Competency จุดแข็งของเราคืออะไร ? เราจะครอบครองใจลูกค้าได้มากกว่านี้ไหม ?
- Blackbox 3 : Our Competitive Landscape วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ของคู่แข่งเรา เพื่อวางแผนการต่อสู้ ?
- กลยุทธ์การตลาด ของเราอยู่ในมุมไหน ?
- Dump Zone
- Losing Zone
- Danger Zone
- Winning Zone
- การเรียนรู้จากกรณีศึกษา เรื่องการค้นหา Winning Strategy
วิทยากร
คุณบังอร สุวรรณมงคล
CEO & FounderHummingbirds Consulting