สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โดยอุปนายกสมาคมฯ สองท่าน คือ ดร.สมชาติ วิศิษฐชัยชาญ และผศ. ดร. เอกก์ ภทรธนกุล ได้เปิดเผยผลสำรวจ “Marketing Trends: 2025 Way Forward” ซึ่งสะท้อนมุมมองและแนวโน้มสำคัญในแวดวงการตลาดไทยปี 2025 โดยรวบรวมข้อมูลจาก MAT CMO COUNCIL เครือข่ายผู้บริหารระดับสูงในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการตลาดจำนวน 111 ท่าน
ภาพรวมเศรษฐกิจและปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตลาดไทยในปี 2025
WHAT: สถานการณ์การตลาดในปี 2568
จากผลสำรวจพบว่า 55% ของผู้บริหารมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะไม่เติบโต และโดยรวมผู้บริหารระดับสูงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเจริญเติบโตเพียง 1.65% ทั้งนี้เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในภาพรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตลาดไทยมากที่สุด 3 อันดับ
- สภาพเศรษฐกิจโลก : ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ 4.09 คะแนน
- เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI: การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการแข่งขัน 4.08 คะแนน
- ความต้องการของผู้บริโภค : พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ให้ความสำคัญกับสุขภาพ คุณภาพชีวิต และความยั่งยืนมากขึ้น 4.05 คะแนน
นอกจากนั้นผู้บริหารถึง 77.6% เห็นว่าปีนี้จะไม่เพิ่มงบประมาณการตลาด โดยจะมุ่งเน้นการใช้งบไปในด้าน Content Platform เป็นหลัก ควบคู่ไปกับ Commerce Platform ซึ่งสมาคมฯ เน้นย้ำว่าการใช้งบประมาณการตลาดต้องทำ Content และ Commerce ไปพร้อม ๆ กันเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเสพ Content ไปพร้อม ๆ กับการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Commerce Platforms ต่าง ๆ
นอกจากนี้ ผู้บริหารมองว่า 3 เทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2568 ที่เป็นจุดสำคัญที่ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโต ตามลำดับ
1. สุขภาพ: ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ
2. ดิจิทัล: ผู้บริโภคมองหาโดยมองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่จะต้องมีความทันสมัย
3. คุณภาพของสินค้า: ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงมีมาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ
HOW: เราจะจัดการงบและทรัพยากรการตลาดอย่างไร
“ จากพบสำรวจพบว่า มากกว่า 77.6% บอกว่าจะไม่เพิ่มงบการตลาดในปี 2025 และอีก 0.41% ที่มองว่างบการตลาดอาจลดลง”
โดยจะมุ่งเน้นการใช้งบไปในด้าน Content Platform เป็นหลัก ควบคู่ไปกับ Commerce Platform ซึ่งสมาคมฯ เน้นย้ำว่าการใช้งบประมาณการตลาดต้องทำ Content และ Commerce ไปพร้อม ๆ กันเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเสพ Content ไปพร้อม ๆ กับการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Commerce Platforms ต่าง ๆ
WHAT NEXT : ในปี 2568 อะไรที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ดร.สมชาติ และ ผศ.ดร.เอกก์ ได้แชร์ผลสำรวจจาก MAT CMO จำนวน 111 คนพบว่า “เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอนาคต” ที่น่าลงทุน มีตามลำดับดังนี้
1. AI (ปัญญาประดิษฐ์): มีถึง 4.52% ที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก ช่วยในการตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการตลาด การเงิน หรือการผลิต
2. IoT (Internet of Things): 4.01% ของอุปกรณ์ต่าง ๆ จะเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้
3. Biotechnology: 3.85% ที่เทคโนโลยีชีวภาพจะถูกนำมาใช้ในการพัฒนายาใหม่ ๆ การผลิตอาหาร และการเกษตร ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพและความมั่นคงทางอาหาร
และอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจคือความสำคัญของ 3P สิ่งที่นักการตลาดและผู้บริหารให้ความสำคัญขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปี 2025 คือ “Profit” หรือผลกำไร รองลงมาคือ “People” สังคม ชุมชน และลูกค้า ซึ่งลดลงมาจากอันดับ 1 เมื่อปีก่อน และสุดท้ายคือ “Planet” สิ่งแวดล้อม
จากผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 พบว่า 3 อุตสาหกรรมสำคัญที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็น New S-Curve ของประเทศไทย ได้แก่:
1. Health and wellness: การให้ความสำคัญกับสุขภาพจะทำให้เกิดโอกาสทางการตลาดในด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น อาหารเสริม เครื่องมือแพทย์ และการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
2. Quality tourism: การตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน จะสร้างโอกาสทางการตลาดในด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
3. Agri and biotech: การนำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ในภาคการเกษตร จะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งจะสร้างโอกาสทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยจุดแข็งด้านทรัพยากรธรรมชาติและองค์ความรู้ที่ประเทศไทยมีอยู่ การพัฒนาและต่อยอดในทั้งสามอุตสาหกรรมนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก ยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในปี 2025 สมาคมฯ ได้สรุปคาถาการตลาดออกมาในแนวคิด “ABCD” ประกอบด้วย
AI: ใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI ยกระดับ Customer Experience ผ่านการใช้ปัญญาประดิษฐ์และ Personalized Marketing สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและคู่ค้า
Balance: ช้า-เร็ว ระวังหลัง สร้างสมดุลระหว่างความรวดเร็วและความรอบคอบในการดำเนินกลยุทธ์และลงทุนกับการจัดการความเสี่ยง ทั้งนี้ต้องเร็วและอยู่บนความเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง
Clear: ชัดเจน ไม่สะเปะสะปะ วางแผนการใช้งบการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่หว่าน
Data: ชิงชัยด้วยข้อมูล เก็บ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีคุณภาพ เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความรู้สึกกับลูกค้า เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจเขาอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยย้ำว่าการตลาดในปี 2025 นั้นไม่ง่าย เพราะต้องการทั้งความยืดหยุ่น ความพร้อมรับมือ ความชัดเจน การปรับตัวอย่างรวดเร็ว แต่ระมัดระวัง เพื่อสร้างความได้เปรียบในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง และธุรกิจที่สามารถผสาน 3P เข้าด้วยกันอย่างสมดุลจึงจะมีโอกาสอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว
หากต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โทร 02 – 679 7360 – 3
จิราภรณ์ พึ่งสัตย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด – กิจกรรมและการสื่อสาร
[email protected] โทร. 099-242-5244