KEY FOCUS
– ปริมาณคนโสดบนโลกใบนี้มีตัวเลขที่สูงขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจและงานบริการจำเป็นต้องปรับตัวต้อนรับลูกค้าแบบ “ข้ามาคนเดียว”
– คนโสดมีรายจ่ายเพื่อการบริโภคต่อหัวมากกว่าคนมีครอบครัวประมาณ 11%
– สัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และการท่องเที่ยว คือธุรกิจหลักที่เริ่มมีการปรับตัวตามวิถีชีวิตใหม่ของชาวโสด
ต้องโสดเลเวลไหนถึงสามารถกินบุฟเฟต์ จิ้มชาบู ดูหนังโรง เที่ยวอะโลน แถมตบท้ายด้วยบิงซูชามใหญ่เพียงคนเดียวอย่างมีความสุข
คนโสด — สเตตัสที่จะเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม วันนี้เขาและเธอได้กลายเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อ ‘สูงมาก’ สังเกตจากการที่ธุรกิจในหลายภาคส่วนเริ่มปรับจูนความคิดใหม่เพื่อกวาดเม็ดเงินออกจากกระเป๋าชาวโสดเหล่านี้ โดยเฉพาะกับคนโสด Gen Y ที่จำนวนมากเลือกใช้ชีวิตโสดเองด้วยความสมัครใจ เป็นโสดอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่ก้มหน้ารับชะตากรรมไร้คู่เพื่อแลกกับอิสรภาพหรือความเป็นตัวเอง รวมไปถึงคนโสด Gen X โดยเฉพาะเพศหญิง ที่สามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้อย่างดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเริ่มหันมาปรนเปรอเติมสุขให้ตัวเองแบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ตัวอย่างเช่น ป้าเอื้อย – สราลีศ์ ผลเกิด กับสโลแกนประจำตัว “ไม่มีแฟนก็แค่ลำพัง แต่ไม่มีตังค์ทนไม่ได้ค่ะ!” สาวโสดหกทศวรรษที่สูงวัยมาอย่างเปี่ยมคุณภาพท่านนี้ เธอเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว มีร้านค้าออนไลน์ และมีเคล็ดวิชาครองโสดอย่างสุขมาแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ ด้วย นั่นคือ 1) เที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ 2) สัตว์เลี้ยงดีต่อใจ 3) ฟิตเนสฟิตปั๋ง 4) ออมเงินเพื่ออนาคตหลังเกษียณ
โสดพร้อมเปย์ (หนัก)
รายงานจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนสมรส และการจดทะเบียนหย่าจากกรมการปกครองพบว่า ในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา (พ.ศ. 2550 – 2560) การจดทะเบียนสมรสของคนไทยลดลง 5.1% สวนทางกับจำนวนการจดทะเบียนหย่าที่เพิ่มขึ้นถึง 19.7% ตัวเลขนี้สอดคล้องกับข้อมูลสถิติของ MeetNLunch เว็บไซต์หาคู่ระดับพรีเมี่ยมที่ระบุว่าตัวเลขคนโสดวัยทำงานในสังคมไทยมีจำนวนกว่า 40% หรือประมาณ 17 ล้านคนของจำนวนประชากรทั้งหมด ไม่ต่างกับตัวเลขคนโสดของชาวอาทิตย์อุทัยที่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีชายชาวญี่ปุ่นถึง 25% และหญิงชาวญี่ปุ่นถึง 15% ที่ไม่มีประวัติการแต่งงานก่อนอายุ 50 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เคยสูงขนาดนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ในขณะที่ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติปี 2561 ระบุว่าคนโสด (ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีตามเกณฑ์อายุที่จดทะเบียนสมรสได้ถูกต้องตามกฎหมาย) มีรายจ่ายเพื่อการบริโภคต่อหัวมากกว่าคนมีครอบครัวเฉลี่ยประมาณ 11% และเมื่อเปรียบเทียบรายจ่ายในด้านต่างๆ แล้วก็พบว่าคนโสดใช้จ่ายมากกว่าคนมีครอบครัวในหลายด้าน เช่น จ่ายค่าอาหารนอกบ้านสูงกว่า 12% จ่ายค่าน้ำมันสูงกว่า 4% จ่ายเพื่อความบันเทิงสูงกว่า 5% และจ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมากกว่าถึง 40% มีเพียงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเท่านั้นที่คนมีครอบครัวใช้สูงกว่าคนโสดราว 48% นอกจากนั้นเมื่อดูข้อมูลความสามารถทางเศรษฐกิจเรายังพบว่าทุกวันนี้สาวโสดพร้อมเปย์วัย 31-40 ปีส่วนใหญ่มีรายได้มากพอที่จะกู้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปได้โดยผ่อนชำระเงินกู้เฉลี่ยแค่ 20,000 บาทต่อเดือน
ปรับโมเดลธุรกิจรับเงินคนโสด
เมื่อน้องหมา น้องแมว น้องปลา น้องงู น้องกระต่าย ฯลฯ ถูกยกฐานะจากสัตว์เลี้ยงประจำบ้านให้กลายเป็นลูกรักมัดใจคนโสด เรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้าหน้าผม ที่หลับที่นอน ของบรรดาน้องๆ เหล่านี้จึงกลายเป็นธุรกิจเซ็กเมนต์ใหม่ที่มีตัวเลขการเติบโตน่าสนใจอย่างยิ่ง
กรมปศุสัตว์ระบุว่าในปีพ.ศ. 2560 คนไทยมีสัตว์เลี้ยงมากถึง 13.2 ล้านตัว แบ่งเป็นน้องหมา 61% แมว 24% และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีก 15% โดยมูลค่าตลาดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงนั้นไต่ระดับขึ้นไปสูงถึง 32,230 ล้านบาท แบ่งเป็นอาหารสัตว์ 14,600 ล้านบาท สถานพยาบาล 10,200 ล้านบาท และสินค้าสำหรับสัตว์อีก 7,430 ล้านบาท โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของอาหารสัตว์นั้นมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 20-30% เหตุเพราะคนโสดสมัยนี้รักสัตว์เลี้ยงอย่างกับลูก อาหารธรรมดาๆ จึงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป มันต้องอาหารชั้นดีระดับพรีเมี่ยมเท่านั้น! นอกจากนี้การเติบโตของโรงแรมสัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ที่คนสามารถเข้าไปเล่นกับน้องหมาน้องแมวได้ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น The Barkyard BKK คอมมูนิตี้สัตว์เลี้ยงในซอยสุขุมวิท 26 ที่ด้านในมีสนามหญ้า สระว่ายน้ำ และโรงแรมไว้บริการสัตว์เลี้ยงอย่างหรูหรา
มาดูเทรนด์ร้านอาหารกันบ้าง Ichiran Ramen คือหนึ่งโมเดลตัวอย่างที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่น ร้านราเมงนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 ที่เมืองฟุกุโอกะ รองรับลูกค้าที่เข้ามาทานราเมงแบบคนเดียวโดยมีฉากกั้นระหว่างที่นั่งเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ซึ่งสำหรับในประเทศไทยก็มีคนนำเข้าแนวคิดนี้เปิดเป็นร้านราเมงข้อสอบ หรือร้าน Eenmaal ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับหนึ่งคนไว้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีวิถีสันโดษโดยเฉพาะ นั่นคือชอบมาทานคนเดียวและอยากให้เวลากับตัวเองในร้านอาหารดีๆ
ซึ่งหากจะวิเคราะห์กันดีๆ แล้ว โมเดลธุรกิจสไตล์นี้ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการขาดพื้นที่สาธารณะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่คนเดียว อย่างในประเทศไทยเราก็พบเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นหลายแห่งที่จัดพื้นที่สำหรับลูกค้านั่งทานคนเดียวบนเคาน์เตอร์บาร์ ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวโต๊ะนาน ยกตัวอย่างเช่นร้าน Hama Ichi ที่ขายอาหารปิ้งย่างแบบชายหาด หรือร้าน Sake no Mise ที่ขายเมนูสไตล์อิซากาย่า เป็นต้น
คนเดียวเที่ยวถึงใจ (กว่า)
ผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมาของอโกด้า โดย YouGov พบว่าความนิยมของชาวเอเชียในการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้นจะตกอยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่เสียเป็นส่วนมาก นั่นคือ Gen Millennials 41% และ Gen Z 38% ในขณะที่ทางโลกตะวันตก เทรนด์นี้กลับร้อนแรงในกลุ่มคนอายุมากกว่า นั่นคือกลุ่ม Baby Boomer 39% และ Gen X 24% สิ่งที่น่าสนใจคือแรงจูงใจที่ทำให้ผู้คนอยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้น คือการพักผ่อนให้สบายใจ การได้ทำอะไรที่แตกต่างไปจากกิจวัตรเดิมๆ และการมีโอกาสไปสัมผัสกับวัฒนธรรมของผู้คนต่างถิ่น
จึงไม่น่าแปลกใจที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เริ่มปรับกระบวนยุทธ์มาจับกลุ่มเป้าหมายคนโสดเปย์หนักนี้แล้ว โดยนำเสนอการท่องเที่ยวเมืองรองแบบ Unseen เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตแท้ๆ และความท้องถิ่นนิยม เช่นเส้นทางท่องเที่ยว ‘ลำพูน…ไม่ลำพัง ทริปตัวคนเดียว 3 วัน 2 คืน’ พร้อมเส้นทางแนะนำสำหรับโซโลทราเวลเลอร์ที่มองหาความสงบ บรรยากาศอบอุ่นน่ารัก มีศิลปวัฒนธรรมล้านนาและของกินอร่อยๆ ให้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมสักการะพระธาตุหริภุญชัย ทานมื้อเที่ยงที่ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่วัดจามเทวี เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน ฯลฯ ผนวกกับการที่แอพพลิเคชั่นการจองที่พัก จองพาหนะ การวางรูทเดินทาง ข้อมูลร้านกินดื่มและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่สามารถออกแบบการเดินทางด้วยตนเองได้อย่างสะดวกสบาย จึงไม่น่าแปลกใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสไตล์โซโลทราเวลเลอร์นี้ มีแต่จะขยับสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี
พอเห็นเค้าลางๆ กันแล้วใช่ไหมว่าสเตตัส “โสด” ในยุคนี้ไม่ได้ผูกติดอยู่กับความเหงาเศร้าสร้อย หรือความกล้าๆ กลัวๆ ที่จะโบยบินอีกต่อไป คนโสดสมัยใหม่ได้ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตที่มีคุณภาพ สามารถท่องโลกกว้างได้อย่างอิสระ เปย์เต็มเหนี่ยวได้ทั้งเรื่องกิน เที่ยว ความสุข และสุขภาพ ที่สำคัญพวกเขาและเธอกำลังกลายเป็นเซ็กเมนท์ใหม่ที่ชวนฝันของนักการตลาด เพราะหากเอาอกเอาใจกันได้ถูกทางแล้วล่ะก็ รับประกันว่าเขาและเธอจะเทเม็ดเงินก้อนโตให้ธุรกิจของคุณได้แบบไม่ยั้ง!
อ้างอิง : Thaiquote, Facebook มนุษย์ต่างวัย, matichon, nippon, marketeeronline, sentangsedtee, brandinside.asia, eenmaal, the barkyard bkk, thai tourism thailand, ichiran